เมนู

คาถาธรรมบท


พาลวรรค1ที่ 5


ว่าด้วยคนพาลร้อยกว่าทุกอย่าง


[15] 1. ราตรีของคนผู้ตื่นอยู่นาน โยชน์ของคนล้า
แล้วไกล สงสารของคนพาลทั้งหลาย ผู้ไม่รู้อยู่ซึ่ง
สัทธรรมย่อมยาว.

2. ถ้าบุคคลเมื่อเที่ยวไป ไม่พึงประสบสหาย
ผู้ประเสริฐกว่า ผู้เช่นกับ (ด้วยคุณ) ของคนไซร้
พึงทำความเที่ยวไปคนเดียวให้มั่น เพราะว่า คุณ
เครื่องเป็นสหายย่อมไม่มีในเพราะคนพาล.

3. คนพาลย่อมเดือดร้อนว่า บุตรทั้งหลาย
ของเรามีอยู่ ทรัพย์ ( ของเรา) มีอยู่ ตนแลย่อม
ไม่มีแก่ตน บุตรทั้งหลายจักมีแต่ที่ไหน ทรัพย์จักมี
แต่ที่ไหน.

4. บุคคลใดโง่ ย่อมสำคัญความที่ตนเป็น
คนโง่ บุคคลนั้นจะเป็นบัณฑิต เพราะเหตุนั้นได้บ้าง
สวนบุคคลใดเป็นคนโง่ มีความสำคัญว่าตนเป็น
บัณฑิต บุคคลนั้นแล เราเรียกว่าคนโง่.

5. ถ้าคนพาล เข้าไปนั่งใกล้บัณฑิตอยู่แม้จน
1. วรรคนี้ มีอรรถกถา 15 เรื่อง

ตลอดชีวิต เขาย่อมไม่รู้ธรรม เหมือนทัพพีไม่รู้
รสแกงฉะนั้น.

6. ถ้าวิญญูชนเข้าไปนั่งใกล้บัณฑิตแม้ครู่เดียว
เขาย่อมรู้แจ้งธรรมได้ฉับพลัน เหมือนลิ้นรู้รสแกง
ฉะนั้น.

7. ชนพาลทั้งหลาย มีปัญญาทราม มีตน
เป็นดังข้าศึก เที่ยวทำกรรมลามกซึ่งมีผลเผ็ดร้อนอยู่.

8. บุคคลทำกรรมใดแล้ว ย่อมเดือดร้อนใน
ภายหลัง เป็นผู้มีหน้าชุ่มด้วยน้ำตา ร้องไห้เสวยผล
ของกรรมใดอยู่ กรรมนั้นอันบุคคลกระทำแล้วไม่ดี
เลย.

9. บุคคลทำกรรมใดแล้ว ย่อมไม่เดือดร้อน
ในภายหลังเป็นผู้เอิบอิ่ม มีใจดี ย่อมเสวยผลของ
กรรมใด กรรมนั้นแล อันบุคคลทำแล้วเป็นกรรมดี.

10. คนพาลย่อมสำคัญบาปประดุจน้ำผึ้ง ตราบ
เท่าที่บาปยังไม่ให้ผล ก็เมื่อใดบาปให้ผล เมื่อนั้น
คนพาลย่อมประสบทุกข์.

11. คนพาลพึงบริโภคโภชนะด้วยปลายหญ้า
คาทุก ๆ เดือน เขาย่อมไม่ถึงเสี้ยวที่ 16 แห่งท่าน
ผู้มีธรรมอันนับได้แล้ว.

12. ก็กรรมชั่วอันบุคคลทำแล้ว ยังไม่ให้ผล
เหมือนน้ำนมที่รีดในขณะนั้น ยังไม่แปรไปฉะนั้น

บาปกรรมย่อมตามเผาคนพาล เหมือนไฟอันเถ้า
กลบไว้ฉะนั้น.

13. ความรู้ย่อมเกิดแก่คนพาล เพียงเพื่อ
ความฉิบหายเท่านั้น ความรู้นั้นยังหัวคิดของเขาให้
ตกไป ย่อมฆ่าส่วนสุกกธรรมของคนพาลเสีย.

14. ภิกษุผู้พาล พึงปรารถนาครามยกย่องอัน
ไม่มีอยู่ ความแวดล้อมในภิกษุทั้งหลาย ความเป็น
ใหญ่ในอาวาส และการบูชาในตระกูลแห่งชนอื่น
ความดำริย่อมเกิดขึ้นแก่ภิกษุผู้พาลว่า คฤหัสถ์และ
บรรพชิตทั้งสองจงสำคัญกรรมอันเขาทำเสร็จแล้ว
เพราะอาศัยเราผู้เดียว จงเป็นไปในอำนาจของเขา
เท่านั้น ในกิจน้อยใหญ่กิจไร ๆ ริษยาและมานะ
ย่อมเจริญ ( แก่เธอ).

15. ก็ข้อปฏิบัติอันเข้าไปอาศัยลาภ เป็น
อย่างอื่น ข้อปฏิบัติอันยังสัตว์ให้ถึงพระนิพพานเป็น
อย่างอื่น (คนละอย่าง) ภิกษุผู้เป็นสาวกของพระ-
พุทธเจ้าทราบเนื้อความนั้นอย่างนี้แล้ว ไม่พึงเพลิด-
เพลินสักการะ พึงตามเจริญวิเวก.

จบพาลวรรคที่ 5.

5. พาลวรรควรรณนา


1. เรื่องบุรุษคนใดคนหนึ่ง [45]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระเจ้า-
ปเสนทิโกศลและบุรุษคนใดคนหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "ทีฆา
ชาครโต รตฺติ"
เป็นต้น.

พระราชาประทักษิณพระนคร


ได้ยินว่า ในวันมหรสพวันหนึ่ง พระราชา พระนามว่าปเสนทิ-
โกศล ทรงช้างเผือกล้วนเชือกหนึ่ง ชื่อปุณฑรีกะ ซึ่งประดับประดา
แล้ว ทรงทำประทักษิณพระนครด้วยอานุภาพแห่งพระราชาอันใหญ่.
เมื่ออาญาเป็นเหตุให้บุคคลลุกไป เป็นไปอยู่,1 มหาชนถูกราชบุรุษโบย
ด้วยวัตถุมีก้อนดินและท่อนไม้เป็นต้น หนีไป ก็ยังเอี้ยวคอกลับแลดูอยู่
นั้นแล. ได้ยินว่า ข้อนี้ เป็นผลแห่งทานที่พระราชาทั้งหลายทรงถวาย
ดีแล้ว.

อำนาจความรัก


ภรรยาของทุคคตบุรุษแม้คนใดคนหนึ่ง ยืนอยู่ที่พื้นชั้นบนแห่ง
ปราสาท 7 ชั้น เปิดบานหน้าต่างบานหนึ่ง พอแลดูพระราชาแล้วก็หลบ
ไป. การหลบไปของหญิงนั้น ปรากฏแก่พระราชา ราวกับว่า พระ-
1. หมายความว่า ตำรวจกำลังทำการขับไล่ไม่ให้ยืนเกะกะทางเสด็จ.